การจัดการโรคภูมิแพ้และโรคหืดอย่างมีประสิทธิผลนั้นต้องอาศัยแนวทางองค์รวมแบบบูรณาการที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการด้านการแพทย์ ผู้ป่วย ผู้ดูแล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชน การส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารระหว่างสาขาต่างๆ เช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ แพทย์โรคปอด แพทย์หูคอจมูก พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอื่นๆ จะทำให้ผู้ที่มีโรคหืดและโรคภูมิแพ้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมที่สุดเกิดผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้น

1. เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสหสาขาวิชาชีพ: ส่งเสริมความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพก้านการดูแลสุขภาพ เช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ แพทย์โรคปอด แพทย์หูคอจมูก พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดการโรคหืดและภูมิแพ้เป็นไปอย่างครอบคลุม
2. ปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย: สำรวจกลยุทธิ์ในการปรับปรุงการปฏิบัติตามแผนการรักษาของผู้ป่วย ลดการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และลดอาการต่างๆ ผ่านการดูแลแบบประสานงาน
3. แบ่งปันแนวทางปฏิบัตืที่ดีที่สุด: อำนวยความสะดวกในการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติตามหลักฐานและแนวทางการรักษาที่สร้างสรรค์สำหรับการจัดการโรคหืดและโรคภูมิแพ้ในกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลาย
4. จัดการกับอุปสรรคในการดูแลผู้ป่วยโรคหืดและโรคภูมิแพ้: ระบุความท้าทายทั่วไปในการจัดการโรคหืดและโรคภูมิแพ้ รวมถึงการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ การวินิจฉัยผิดพลาด และหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขแบบร่วมมือกัน
5. ส่งเสริมการวิจัยและการเรียนรู้ต่อเนื่อง: เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัยอย่างต่อเนื่อง การศึกษาต่อเนื่องและการแบ่งปันความรู้ เพื่อให้ก้างล้ำหน้าตามแนวโน้มและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในการดูแลผู้ป่วยโรคหืดและโรคภูมิแพ้
6. ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ: สร้างโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมสร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก และร่วมมือกันในโครงการในอนาคต