หลักการและเหตุผล
การบริบาลทางเภสัชกรรมในปัจจุบันมีเป้าหมายสำคัญในการดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด โดยเฉพาะในยุคของ “การแพทย์แม่นยำ (precision medicine)” ที่มุ่งเน้นการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เภสัชกรในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยา จึงมีบทบาทสำคัญในการใช้ข้อมูลทางเภสัชพันธุศาสตร์ (pharmacogenomics) มาช่วยพิจารณาปรับขนาดยาและเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย
เภสัชพันธุศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ศึกษาอิทธิพลของพันธุกรรมที่มีต่อการตอบสนองต่อยา โดยเฉพาะยาที่มีช่วงความปลอดภัยแคบ (narrow therapeutic index drugs) หรือยาที่มีการตอบสนองแตกต่างกันอย่างมากระหว่างบุคคล ปัจจุบันมีแนวทาง (guidelines) จากองค์กรวิชาชีพ เช่น CPIC (Clinical Pharmacogenetics Implementation Consortium), DPWG (Dutch Pharmacogenetics Working Group) และ FDA Drug Label ที่แนะนำการปรับขนาดยาตาม genotype ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในผู้ป่วยหลายกลุ่มโรค เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง จิตเวช โรคติดเชื้อ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การนำเภสัชพันธุศาสตร์ไปใช้ในเวชปฏิบัติยังคงมีข้อจำกัด เนื่องจากต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลยีนร่วมกับแนวทางที่เป็นระบบ และใช้วิจารณญาณทางคลินิกร่วมด้วย
ด้วยเหตุนี้ กองเภสัชกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงจัดโครงการอบรม “Integrating Pharmacogenomics & Personalized Dosing into Clinical Practice” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะของเภสัชกรในการประยุกต์ใช้ข้อมูลเภสัชพันธุศาสตร์ในการปฏิบัติงานจริง ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของการแปลผลยีน การใช้ฐานข้อมูลและ guideline ต่าง ๆ การวิเคราะห์ความเหมาะสมของยาในแต่ละผู้ป่วย ไปจนถึงการปรับขนาดยาตามหลัก personalized dosing โดยเน้นการฝึกคิดเชิงระบบ (stepwise clinical approach) ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในงานบริบาลผู้ป่วย
โครงการนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเภสัชกรในการใช้ยาเฉพาะบุคคล ส่งเสริมการทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และ นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ลดอุบัติการณ์ของอาการไม่พึงประสงค์จากยา และสนับสนุนแนวทางการแพทย์แม่นยำในระบบบริการสุขภาพของประเทศไทย
วัตถุประสงค์
- เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของเภสัชกรในการประยุกต์ใช้ข้อมูลเภสัชพันธุศาสตร์เพื่อการปรับขนาดยาเฉพาะบุคคลในเวชปฏิบัติ
- เพื่อส่งเสริมให้เภสัชกรสามารถแปลผลข้อมูลทางพันธุกรรมร่วมกับแนวทางปฏิบัติ (guidelines) และข้อมูลทางคลินิก เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางเภสัชบำบัด
- เพื่อเพิ่มศักยภาพของเภสัชกรในการทำงานร่วมกับแพทย์ พยาบาล และทีมสหวิชาชีพในการดูแลการใช้ยาแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
- เพื่อส่งเสริมการใช้เภสัชพันธุศาสตร์ในระบบบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน